สวัสดี ชีวิตดีๆที่ไร้กรอบ (กรอบแว่นอ่ะนะ)
คนที่ใส่แว่นในชีวิตประจำวันจะเข้าใจกันดีว่า บางทีก็สร้างความยุ่งยากให้กับชีวิต บางทีวางแว่นไว้แล้วหาไม่เจอบ้างหละ หรือนอนทับแว่นตัวเองบ้างหละ ยิ่งในยุคCOVID 19ยิ่งแล้วไปใหญ่ ที่ต้องใส่ทั้ง Mask ต้องใส่ทั้งแว่น สรุป ฝ้าขึ้นแว่นจ้า !!
โชคดีตรงที่มี่ได้มีโอกาสเข้าไปประเมินสุขภาพตาเพื่อการทำ LASIK กับ คุณหมอชญาตา (คุณหมอกระแตสุดน่ารักของเรา)Lasik by Dr Chayata – เลสิคหมอชญาตา ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ในการตรวจเบื้อต้นก็จะมีตรวจสายตา (ของเราสั้น 350/375 ) ความดันลูกตา ตรวจภาวะกระจกตาโก่งและความหนาของกระจกตา ในขั้นตอนที่กล่าวมาเราจะต้องหยดยาขยายม่ายตาด้วยนะ *(ในขั้นตอนนี้ห้ามขับรถเด็ดขาดเลย เพราะจะทำให้เราเห็นภาพเบลอและตาเราจะสู้แสงไม่ได้)
ตอนแรกก็แอบเป็นกังวลว่ากระจกตาเราจะสมบูรณ์พอที่จะทำLASIK ได้ไหมน้า เพราะเราเองก็ไม่ได้ดูแลสายตาเราเท่าไหร่ อีกทั้งยังใส่คอนแทกเลนส์ตั้งแต่ยังเด็กอีก(ตั้งแต่13ปี)
พอได้ตรวจรวมๆผลก็ออกมาว่าสุขภาพกระจกตาเรายังสุขภาพดีอยู่จ้า สามารถทำLASIKได้สบาย ผ่านฉลุย
คุณหมอกระแต เลยแนะนำให้เราทำแบบ Femto LASIK ( คือการทำLasik โดยการแยกชั้นกระจกตาด้วยเลเซอร์ มีความปลอดภัยและแม่นยำสูง ก่อให้เกิดแผลเล็กและฝื้นตัวเร็ว) เราก็ตกลงทำด้วยความดีใจ
3 วันต่อมาก็ถึงวันที่คุณหมอนัดเข้ามาทำ Femto LASIK (สารภาพตามตรง ช่วงเวลาก่อนที่จะเข้าไปทำ กลัวมาก มีความงอแงขั้นสุด แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อ) วันที่เข้ามาทำเราก็ต้องตรวจตาเบื้อต้นอีกรอบ และดูวิดีโอพร้อมฟังคำแนะนำในการปฏิบัติตัว พอถึงเวลาขึ้นเขียงจริง นางพยาบาลและคุณหมอก็ได้ให้คำแนะนำพร้อมกับอธิบายในทุกๆขั้นตอนของการทำ LASIK ซึ่งเราก็ประหลาดใจมากเพราะไม่มีความเจ็บปวดเลย มีแต่ความประหม่าที่ตัวเอาสร้างมาเองแท้ๆ ><“
และอีกหนึ่งความประทับใจนึงระหว่างการทำLASIK คือ ทั้งคุณหมอและพยาบาล อธิบายทุกขั้นตอนให้เราฟังอีกทั้งยัง Cheer up เราตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้เรารู้สึกคลายกังวลไปเยอะมาก ต้องขอบคุณทีมงานจริงๆ
หลังทำ LASIK คุณหมอก็ได้แนะนำให้ทานยาแก้ปวดและยานอนหลับ เพื่อที่จะได้พักตา เพื่อที่แผลจะได้หายไว้ขึ้น ไอ้เราก็จัดไปเลยจ้า นอนตั้งแต่ออกจากห้องผ่าตัด จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเลย
วันรุ่งขึ้น สิ่งมหัศจรรย์ก็บังเกิดจ้า เรามองเห็นชัดเจนโดยไม่ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์แล้ว และได้ไปFollow up และคุณหมอก็บอกว่าความชัดของเราจะปรับจูนดีขึ้นเรื่อยๆละคุณหมอก็จะนัด Follow up อีกที 1 อาทิตย์
ซึ่งการปฏิบัติตัวต่อจากนี้ก็แค่
- ใส่ที่ครบตาขณะนอน เพื่อป้องกันการขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว
- งดการใช้เครื่องสำอาง 1 อาทิตย์
- งดการสระผมเอง และป้องกันไม่ให้น้ำเข้าตา
- งดล้างหน้า โดยการเช็ดหน้าแทน
- งดทำกิจกรรมที่เสื่องต่อการที่เหงื่อเข้าตา และงดกิจกรรมทางน้ำ 1 เดือน
- สวมแว่นกันแดด ในการออกแดดทุกครั้ง เก๋ๆ
การมีสายตาดีๆจะอยู่กับเราได้นานเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตและการถนอมดวงตาของเราเองแล้ว
Finally,มี่ขอขอบคุณ อาจารย์ พ.ญ. ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ และทีม ที่ให้คำแนะนำพร้อมดูแลดวงตาของมี่อย่างดีค่ะ